หลวงตาจิต อตฺตสนฺโต วัดหนองแวง
สุรินทร์


-    

-  

-

-

ชื่อจริงจิต กองทอง ปัจจุบันอายุ 60 ปี 20 พรรษา เกิดที่บ้านระเวียง หมู่ 6 ต.ระแงง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ มีพี่น้องร่วมกัน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน ท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อท่านอายุได้ 13 ปี ได้เริ่มศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์สมัยนั้น โดยอาจารย์คนแรกของท่านคืออาจารย์เส่ง ฆราวาสผู้เรืองเวทย์แห่งอำเภอศรีขรภูมิ สุรินทร์ ท่านติดสอยห้อยตามและร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์เส่งร่วม 5 ปี จนอายุครบ 18 ปี วิชาที่เป็นเอกอุของท่านคือวิชาทางพราย เมตตา มหานิยม ซึ่งเป็นสุดยอดวิชาของอาจารย์ หลังจากนั้นท่านก็ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆตามที่ครูบาอาจารย์แนะนำร่ำเรียนต่อยอดวิชาจากครูบาอาจารย์ทั้งไทย เขมร ส่วย ลาว จนได้ขึ้นชื่อว่าฆราวาสผู้เรืองเวทย์อีกผู้หนึ่งในสมัยนั้น และเมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารท่านจับได้ใบแดง ไปเป็นทหารอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์อยู่ 2 ปีครึ่ง และเมื่อปลดประจำการออกมาท่านก็ได้บวชทดแทนคุณบิดามารดา 1 พรรษา เมื่อสึกออกมาก็ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาช่วยสงเคราะห์คนที่เดือดร้อนประเภทลูกเสีย เมียหาย ผัวหนี จนกระทั่งอายุ 40 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลกท่านจึงตัดสินใจบวชอีกครั้ง และครั้งนี้ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเดินตามคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และจะไม่สึก และเมื่อบวชแล้วท่านก็ได้ติดตามครูบาอาจารย์ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาลำเนาไพร ทั้งไทย เขมร ลาว ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในป่า (ซึ่งถึงตอนนี้กระผมขออนุญาตรวบรัดเอาเฉพาะสำคัญนะครับ)เมื่อครั้งออกธุดงค์ในป่าลึกเมืองลาวได้พบกับพระอาจารย์ไฮ แห่ง สปป.ลาว พระผู้คอยสอนวิชาสมถะกรรมฐานให้พระธุดงค์ สอนวิชาเดินธาตุต่างๆ สอนกรรมฐาน หลวงตาจิตเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงฝากตัวเป็นศิษย์ และท่านก็ได้ถ่ายทอดสุดยอดวิชาเมตตามหานิยมให้เพื่ออนาคตจะได้สงเคราะห์ผู้คน เมื่ออยู่กับหลวงปู่ไฮครบ 1 ปี ก็กราบลาหลวงปู่ไฮ เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อเดินทางถึงประเทศกัมพูชา ในระหว่างนั้นเป็นป่าลึกได้พบพระอาจารย์ชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ในถ้ำชื่อพระอาจารย์จิตเหมือนกัน และเกิดความเลื่อมใสซึ่งกันและกันจึงนิมนต์ท่านอยู่ในถ้ำแห่งนั้นด้วยกันนานถึง 5 เดือน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเขมรท่านได้ฝึกสมาธิและได้ฝึกวิชาต่างๆจากพระชาวเขมรซึ่งสุดยอดวิชาที่ได้คือวิชาที่เป็นเมตตา มหานิยม อีกเช่นเคย จากนั้นก็กราบลาเพื่อเดินทางมายังฝั่งไทยและจำพรรษาที่จันทบุรี 
 
หลังจากแยกย้ายกันกับพระชาวเขมรที่ถ้ำในป่าลึกหลวงตาจิตก็ได้เดินทางต่อมายังประเทศไทยได้เข้าฝึกสมาธิที่ถ้ำบึงชนังตามคำเชิญของพระชราผู้หนึ่งที่พบกันในระหว่างเดินทางมาจากเขมรหลวงตาจิตได้ฝึกสมาธิอยู่ที่นั่นเป็นเวลา1เดือน แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดสุรินทร์เพื่อจำพรรษา ในปีหนึ่งๆหลวงตาจิตจะอยู่เป็นที่เป็นทางเฉพาะช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ส่วนอีกเก้าเดือนที่เหลือจะปลีกวิเวกเดินธุดงค์ตามป่าตามเขากับสหธรรมิกครูบาอาจารย์ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนที่มา "จิต ป่าช้าแตก" นั้นได้มาตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาสเมื่อบวชแล้วก็ยังได้รับการยอมรับจากพระในสำนักที่ท่านจำพรรษาและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเพราะส่วนใหญ่ที่ท่านจำพรรษาอยู่นั้นจะเป็นป่าช้าซะส่วนใหญ่และทุกๆคืนที่ท่านอยู่นั้นจะมีปรากฏการณ์พรายมามอบน้ำมันพรายให้ท่านเสมอหรือไม่ก็บอกให้ไปเอาตามสถานที่ต่างๆเพื่อนำมาสงเคราะห์คนเดือดร้อนเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดที่เดียวหากแต่เกิดทุกที่ที่ท่านพำนักจนเป็นที่มาว่า "หลวงตาจิต ป่าช้าแตก" แล้วต่อมาท่านก็ได้หยุด หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวเนื่องจากสภาวะทางธรรมของท่านได้สูงขึ้นและท่านก็เข้าใจว่าไม่ใช่วิถีทางแห่งความหลุดพ้นจึงหยุดทำ และก็ออกธุดงค์กับสหธรรมมิกเพื่อแสวงหาความสงบในป่าทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และผมได้สอบถามท่านว่าได้จำพรรษาอยู่ที่ใดบ้างท่านบอกว่าทั่วทุกภาคของเมืองไทยท่านจำพรรษามาหมดแล้ว จันทบุรี ตราด พูนพินสุราษ ท่าแซะชุมพร พร้าวเชียงใหม่ ขอนแก่น สารคาม ขุนหาญ สังขะ ปราสาท และล่าสุดท่านก็ได้มาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองแวง ต.ผักไหม อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ร่วมกับพระอาจารย์จิ๋ว พระอาจารย์สมคิด(บุรีรัมย์) สอนวิปัสนากรรมฐานให้ทั้งพระและญาติโยมและท่านตั้งใจว่าเมื่อออกพรรษาท่านจะไปอยู่ป่าไปหาอยู่ตามถ้ำ แต่ก็มีเหตุที่ไม่สามารถไปได้เพราะท่านมีภาระที่ต้องช่วยพระอาจารย์จิ๋วสร้างศาลาปฏิบัติธรรมให้พระและญาติโยมได้ปฏิบัติธรรม แต่เนื่องจากการก่อสร้างนั้น ต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมากท่านจึงตัดสินใจอนุญาตให้ตั้ม อุบล จัดสร้างพระขุนแผนพรายนวะคุณ และมอบเนื้อพราย น้ำมันพราย ตลอดจนมวลสารต่างๆที่ท่านได้สืบทอดมา เพื่อจัดสร้างขุนแผนดังกล่าว ตามคำแนะนำของพระอาจารย์สมคิด(บุรีรัมย์) เพื่อนำปัจจัยสมทบสร้างศาลาปฏิบัติธรรม สืบต่อพุทธศาสนาต่อไป โดยการดำเนินการจัดสร้างนี้หลวงตาจิต และพระอาจารย์สมคิด เป็นผู้ดำเนินการด้านมวลสาร และกดพิมพ์เองทุกขั้นตอน ไม่ดี ไม่ขลัง ไม่ต้องเอาออกไป
 
Credit:  K.ตั้ม อุบล  รายงานจากวัดหนองแวง
 

K.ตั้ม อุบล รายงานจากวัดหนองแวง

684


วัตถุมงคลของท่าน



รวมพระ-วิกิ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลและรูปภาพที่ได้นำเสนอนี้จะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สะสม ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และขอกราบขอบพระคุณเพื่อนนักสะสมที่ได้อนุเคราะห์ให้ข้อมูลและรูปภาพแก่ทางเรา ทั้งนี้อาจมีรูปภาพบางภาพที่นำมาใช้ โดยที่ยังมิได้แจ้งเจ้าของภาพเพื่อขออณุญาตล่วงหน้า จึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อขออภัยและขออณุญาตนำรูปภาพของท่านมาเผยแพร่ภายในในเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ นักสะสมท่านอื่นๆ ต่อไป

หากท่านต้องการติดต่อเพื่อให้ข้อมูลพระ หรือพบเห็นข้อความหรือรูปภาพที่ไม่ถูกต้อง ท่านสามารถแจ้งข้อมูล ได้ที่ www.ruampra.com/wiki/aboutwiki.aspx