หลวงปู่แสน‬ ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก
ศรีสะเกษ


10 ก.ย. 2451 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก   อายุ:  117 ปี  

หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนพระอุปปัชฌา คือ หลวงพ่อบุญมา (อาจารย์ของหลวงพ่อมุม) ท่านบวชที่วัดบ้านโพง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ  

-

หลวงพ่อสว่าง ปัญญาทีโป 

ชื่อเดิม ปู่แสน คุ้มครอง เกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ปีวอก ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มี่พี่น้องต่างมารดาร่วม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 3 (ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว) พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ (ปัจจุบัน ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ) เมื่อครั้นยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู จนได้บวชเณรที่วัดบ้านโพง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุมวัดปราสาทเยอใต้จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี ระหว่างเป็นเณรก็ได้เที่ยวไปมาระหว่างบ้านปราสาทเยอใต้และบ้านโพง จนกระทั่งอายุ 21 ปีได้เข้าอุปสมบท ระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน หลังจากสึกได้บวชเป็นหมอธรรมขณะที่เป็นฆราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆหมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายก ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน
ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ได้กลับเข้าใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรรษาที่บ้านกุดเสล่า อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ก็ได้ธุดงค์ในเทือกเขาพนมดงรัก เป็นนิจ และเป็นพระที่อยู่อย่างสมาถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสล่าจึงรักและศรัทธาท่านมาก ต่อมาหลวงตาวันพระที่เป็นสหายรุ่นน้องจึงได้ไปกราบนิมนต์มาช่วยสร้างวัด โดยเจ้าขณะอำเภอกันทรลักษณ์อนุญาตให้หลวงปู่ไปอยู่ที่วัดเป็นวัดที่สมบูรณ์แล้ว หลวงปู่จึงมาจำพรรษาที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แต่ด้วยมักสมาถะ ปีต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์โนนไทย (วัดกูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่จำพรรษา 3 พรรษา ต่อมาได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเนื่องด้วยวัดจะร้างเพราะพระน้อย หลวงปู่จึงเข้ามาทำนุบำรุงวัดจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ ท่านได้จำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกเป็นเวลา 4 พรรษา โยมญาติพี่น้องเก่าจึงได้เดินทางมานิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพง วัดครั้นสมัยบวชเณรเนื่องจากวัดจะร้างไม่มีพระจำพรรษา เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาแม้อายุจะย่างเข้า 93 ปีท่านได้ไปจำพรราที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น ด้วยพระเดชของหลวงปู่วัดใดที่จะร้าง เมื่อท่านไปจำพรรษาวัดใด วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิกจนถึงทุกวันนี้

-

6037


วัตถุมงคลของท่าน



รวมพระ-วิกิ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลและรูปภาพที่ได้นำเสนอนี้จะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สะสม ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และขอกราบขอบพระคุณเพื่อนนักสะสมที่ได้อนุเคราะห์ให้ข้อมูลและรูปภาพแก่ทางเรา ทั้งนี้อาจมีรูปภาพบางภาพที่นำมาใช้ โดยที่ยังมิได้แจ้งเจ้าของภาพเพื่อขออณุญาตล่วงหน้า จึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อขออภัยและขออณุญาตนำรูปภาพของท่านมาเผยแพร่ภายในในเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ นักสะสมท่านอื่นๆ ต่อไป

หากท่านต้องการติดต่อเพื่อให้ข้อมูลพระ หรือพบเห็นข้อความหรือรูปภาพที่ไม่ถูกต้อง ท่านสามารถแจ้งข้อมูล ได้ที่ www.ruampra.com/wiki/aboutwiki.aspx