บริหารงานโดย: NACHALITI (0) ยืนยันตัวตนแล้ว
จำนวนพระเครื่องในร้าน 757 องค์
เพิ่มรายการนี้เป็น “พระเครื่องในร้านที่ท่านสนใจ”

rh5-312ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554


ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554 ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554 ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554
ข้อมูลพระ

เครื่องราง ของขลัง

ลพ.สาคร ลพ.สิน ระยอง

ลูกอมผงพรายกุมารผสมว่านดอกทอง โค้ตนะ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ปี2554

หลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนถ้วนหน้า  ศิษย์เอกผู้สืบสายพุทธาคมจากหลวงปู่ทิมจนหมดสิ้น   ท่านเกิดเมื่อวันอังคาร แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2481 ซึ่งตามคติโบราณกล่าวว่า บุคคลนั้นจะมีความพิเศษอยู่ในตัว  ท่านมีความใฝ่ใจในด้านเวทมนตร์คาถาและวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดหนองกรับ ก็ออกมาช่วยบิดามารดา พอมีเวลาว่างก็จะไปศึกษาไสยเวทกับหลวงพ่อเพ่ง วัด ละหารใหญ่ ได้วิชาสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และเลยไปที่บ้านละหารไร่ เพื่อศึกษาไสยศาสตร์กับนายหล่อและ นายทัต ฆราวาส ผู้เรืองวิชาอาคม พร้อมเข้าปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่ทิมอยู่เป็นนิจ นับเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่หลวงปู่ให้ความเมตตาและเรียกใช้อยู่เสมอ ด้วยมีใจรักทางด้านนี้ หลวงปู่ทิมจึงให้ไปศึกษาเพิ่มเติมกับ หลวงปู่หิน วัดหนองสนม ต่อด้วย หลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง ซึ่งล้วนเป็นพระเกจิผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าของภาคตะวันออกทั้งสิ้น ท่านยังได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์และฆราวาสอีกมากมายทั้งก่อนและหลังการรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ อาทิ อาจารย์เชียงคำ ประเทศพม่า, อาจารย์สุพจน์ ประเทศเขมร, อาจารย์สิน วัดนาวัง จ.ชลบุรี, พระอาจารย์สุมล คำเสียง จ.ศรีสะเกษ, หลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ฯลฯ  วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อสาครสร้างนั้น มีหลากหลายประเภท เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั้งหลายที่มีมากมาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง  ด้วยความเชื่อถือในความเป็นศิษย์ผู้สืบทอดจากหลวงปู่ทิมที่มีประวัติอย่างชัดเจน และปรากฏพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ จึงกลายเป็นที่ศรัทธาและนิยมสะสมอย่างกว้างขวาง เล่ากันว่าในช่วงที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ยังมีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ได้ถามท่านว่า  “เมื่อสิ้นหลวงปู่แล้ว ใครจะทำของได้ขลังเหมือนหลวงปู่...” หลวงปู่ทิม ท่านชี้มือไปที่พระหนุ่มรูปหนึ่งที่มาปรนนิบัติรับใช้งาน พร้อมพูดว่า  “โน่น คุณสาครเขาเรียนของนี่ไว้ทั้งหมดแล้ว”   สมัยนั้นหลวงปู่ทิม อิสริโก แห่งวัดละหารไร่ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง เกียรติคุณความศักดิ์สิทธิ์และเชี่ยวชาญในพระเวทย์ของหลวงปู่ทิมเป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไป  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีผู้ที่ใฝ่รู้ในเรื่องของเวทย์มนต์คาถาต่างเดินทางมาขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน  ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมถ่ายทอดวิชาให้แก่ใครง่ายๆ ด้วยกลัวว่าเมื่อถ่ายทอดวิชาให้คนที่เรียนไปแล้ว จะไม่ยอมเอาไปใช้จริงๆก็จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของท่าน  แต่กับหลวงพ่อสาคร หลวงปู่ทิมท่านถ่ายทอดวิชาอาคมให้อย่างเต็มที่  ท่านคงจะรู้ว่าต่อไปภายหน้าหลวงพ่อสาคร จะต้องนำเอาวิชาเหล่านี้มาช่วยเหลือคน  

 

“ผงพรายกุมาร”  มีกระบวนการสร้างที่ล้ำลึก  หลวงปู่ทิมท่านได้มอบผงชนิดนี้ให้หลวงพ่อสาครมาหนึ่งตลับยาหม่อง และได้มอบวิชาการสร้างมาให้ แต่หลวงพ่อสาครท่านก็ไม่ได้สร้างผงชนิดนี้ขึ้นใหม่ เพียงแต่ว่าเมื่อท่านจะสร้างพระพิมพ์ขุนแผน ท่านก็จะแบ่งเอาผงวิเศษนี้มาเข้าเป็นเชื้อแล้วก็ทำผงวิเศษชนิดอื่นมาผสมเพิ่มเติม   หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่ง พรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร โดยหลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหา ภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชา   แต่การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเนื่องจากวัตถุอาถรรพ์สำคัญที่ใช้ทำผงพรายกุมารก็คือ “กะโหลกพรายกุมาร” จากศพ “อาจารย์พรายนาป่าช้า” ซึ่งเป็นชายชราชาวบ้านนุ่งขาวไว้ผมมวยด้านหลัง มีวิชาถาถาอาคมแก่กล้า และเลี้ยงภูติพราย ปลุกกระท่อมอาศัยอยู่ในบริเวณวัดละหารไร่ ผู้คนเรียกท่านว่า “อาจารย์พราย” ต่อมาเสียชีวิตลง ได้นำศพฝังในบริเวณนั้นเป็นศพแรก “แม่นางพราย” หญิงชาวบ้านท้องแก่ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตายโหง “พ่อพรายกุมาร” เด็กทารกเพศชายที่เสียชีวิตในครรถ์ ของแม่นางพราย หมอกุหลาบ นำมาแต่เพียงศีรษะติดเส้นผมอ่อนขนาดประมาณไข่เป็ด   ซึ่งในตอนแรกไม่มีลูกศิษย์คนไหนกล้าอาสากระทำการเพราะต่างก็เกรงกลัวอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม มีเพียงหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมจากหลวงปู่ทิม เล่ากันว่า หมอกุหลาบ เองยังต้องเจอกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า นางพราย และพรายกุมาร เช่น เมื่อขุดดินทางหัวศพแต่เจอปลายเท้า เมื่อเปลี่ยนที่ขุดตรงกันข้ามก็พบปลายเท้าศพอีกครั้งเป็นต้น   แต่ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนาและคาถาอาคมบารมีที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิไว้นั้น ทำให้อาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจในกุศลผลบุญที่ตนจะได้รับจึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ  หมอกุหลาบฯ กล่าวว่าวิญญาณของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพเงาที่สะท้อนบนพื้อนขัดมันที่เปียกน้ำ ซึ่งในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่   เมื่อได้กระโหลกพรายกุมาร มาแล้วหมอกุหลาบ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลานานประมาณ 3-4 เดือน จนแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมด ผสมน้ำแช่เกสรบัว ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์หลวงปู่ทิมที่กำหนดไว้ จึงนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ 9 รูป โดยหลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป

 

ว่านดอกทอง มีอิทธิคุณทางเสน่ห์มหานิยมรุนแรงมาก  หากได้รับการปลุกเสกด้วยอาคมและอำนาจจิตจากผู้มีวิชาด้วยแล้ว ยิ่งทวีคูณ  คนสมัยก่อนนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ หรือ บดรวมกับสีผึ้ง โดยวิธีใช้ คือใช้น้ำมันทาตัว หรือใช้สีผึ้งสีปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้คน ใครต่อคารมด้วย พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย  ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้  สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก  หญิงใช้เป็นเสน่ห์ติดตัว  ใครเห็นใครรักใครหลง  ชายพกติดตัวไปหาสาวใด  หรือคนที่รักใคร่ชอบพอก็จะสมหวังทุกประการ    มีเรื่องเล่าอยู่ว่า  สมัยก่อนที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง  มีดงว่านชนิดนี้เกิดขึ้นอยู่ตามธรรมชาติอยู่บริเวณรอบหมู่บ้าน  จนกระทั่งเมื่อถึงฤดูฝน  ว่านชนิดนี้ก็ออกดอกส่งกลิ่นตลบอบอวนไปทั่วทั่งหมู่บ้าน  ปรากฏว่าคนทั้งหมู่บ้านมีการแอบสมสู่กันเกิดขึ้น  จนเกิดการทะเลาะตบตีแย่งชิงกันเพราะอำนาจของว่านแห่งราคะนี้   จนผู้ใหญ่บ้านต้องนำรถไถไปเกรดบดทับบริเวณรอบหมู่บ้านที่มีดงว่านดอกทอง  เพราะเกรงว่าจะเป็นเหตุให้หมู่บ้านต้องพินาศไปด้วยฤทธิ์ของว่านดังกล่าว  จนกระทั่งถึงวันนี้ก็ยังมีผู้คนแอบไปขุดเอาหัวว่านขึ้นมาใช้กันอยู่  อันเนื่องมาจากความอาถรรพ์ของว่านดอกทองหรือว่านราคะ  ที่มีอำนาจครอบงำเหนือชายและหญิงทั้งปวง

-

ให้เช่าแล้ว

1 ก.ค. 61 @ 22:16
26 ก.ค. 61 @ 11:43
ความเห็นต่อพระเครื่ององค์นี้

รายงานผลโหวต
พระแท้แน่นอน 0% [0 คน]
ข้อมูลผิด 0% [0 คน]
ดูยาก 0% [0 คน]
พระไม่แท้ 0% [0 คน]

จำนวนผู้โหวต 0 คน
ข้อมูลร้านค้า

NA CHA LI TI

NACHALITI (0) ยืนยันตัวตนแล้ว


วรี สุนทรสาร

9140136640 ประเภทบัญชี: ออมทรัพย์

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

เทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์


นนทบุรี  11000

0886445641

nachaliti456@gmail.com

สถิติร้านค้า
จำนวนพระเครื่อง 757 องค์
จำนวนผู้ชมทั้งหมด 454,868 คน
อัตราการชมเฉลี่ย 600.88 ครั้ง/องค์
  •    พร้อมเช่า: 272 องค์ (35.93%)
  •    พระโชว์: 13 องค์ (1.72%)
  •    ประมูลอยู่: 0 องค์ (0%)
  •    จองแล้ว: 0 องค์ (0%)
  •    ให้เช่าแล้ว: 472 องค์ (62.35%)

ฝากข้อความหากัน เจ้าของร้าน <-> ผู้เยี่ยมชม

ข้อความจากเจ้าของร้าน

ข้อความจากผู้เยี่ยมชม