สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ หลังเปลือกไม้ แม่พิมพ์ หลวงวิจารย์เจียรนัย (เฮง) ผิววรรณะออกสีเหลืองแก่ขนุนสุก-กล้วยหอมสุก มีเม็ดพระธาตุสีขียว พิมพ์นี้หายากสุดๆครับพี่น้อง
สรุปว่าพระสมเด็จหลังเปลือกไม้นั้นคือกลุ่มของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่มีความสนิทสนมกั บเจ้าประคุณสมเด็จโตเป็นอย่างมาก โดยท่านได้นำเอามวลสารส่วนหนึ่งพร้อมกับแม่พิมพ์ของหลวงวิจารย์เจียรนัย และแม่พิมพ์ของช่างอื่นๆไปด้วย และอีกทั้งยังจะมีการแกะพิมพ์ใหม่ขึ้นมาด้วย....
โดยได้นำไปกดพิมพ์ที่ด้านหลังวัดระฆังฯ (สันณิษฐานว่าน่าจะเป็นวังหลัง) ซึ่งในสมัยนั้นด้านหลังวัดระฆังฯ ยังเป็นที่นา สวนผลไม้ ไร่สวนต่างๆ ประกอบว่า ในสมัยนั้นได้มีการแข่งกัน ในการสร้างพระสมเด็จ ที่แต่ละกลุ่มได้สร้างมา ให้เจ้าประคุณสมเด็จโต ปลุกเสกอีกทีนั้น....ว่าพระสมเด็จของกลุ่มใดจะมีความสวยงามมาก กว่ากัน.....
ดังนั้น จึงได้มีการทำเอกลักษณ์ เฉพาะกลุ่มให้กับพระสมเด็จ เพื่อบ่งบอกว่าพระสมเด็จชุดนี้มาจา กกลุ่มไหน..... ดังนั้นพระสมเด็จ หลังเปลือกไม้ จึงมีที่มาจากข้อความข้างต้น
คือนำไปกดพิมพ์ที่วังหลัง และทำเอกลักษณ์ด้านหลังพระสมเด็จเหมือนกับร่องสวนหรือนำเอาไม้มงคลต่างๆ ประเภท ไม้มะขาม ไม้มะยม ไม้พยุง มากดทับด้านหลังองค์พระเพื่อเป็นเคล็ดอย่างหนึ่งในการสร้างพระให้มีความขลังมากขึ้นน ั้นเอง
การกดหลังพระ ปรากฎเป็นลายหลังกระดาน ลึกแบบต่าง ๆ นั้นไ ม่ใช่ธรรมดา ซ่อนปริศนาธรรม ความเชื่อของคนไว้ ต้นไม้ใด ที่เป็นมงคลในการสร้าง เป็นมุมมองของผู้สร้างอันชาญฉลาด และความศรัทธาโดยแท้ โดยใช้ไม้มงคลชนิดต่าง ๆ..กดหลังพระและตอกให้เนื้อมวลสารแน่นพิมพ์พระ ..พิมพ์ด้านหน้าของพระสมเด็จวัดระฆัง จึงคมชัดลึกมากกว่าใช้มือกด..
ไม้มงคลที่ใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์นี้ใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ก่อนทำการก่อสร้างนิยมทำพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยใช้ไม้มงคล ๙ ชนิด ปักกับพื้นดิน ไม้ทั้ง ๙ ชนิด มีชื่อเป็นมงคลนาม ได้แก่ ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ขนุน ไม้ชัยพฤกษ์ ไม้ทองหลาง ไม้ไผ่สีสุก ไม้ทรงบาดาล ไม้สัก ไม้พะยูง และไม้กันเกรา
พระหลังเปลือกไม้ และหลังร่องสวน มีการสร้างในช่วงปลาย พ.ศ. 2407 – 2415 พิธีมหาพุทธาภิเษกครั่งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2411 กลุ่มวังหน้า กลุ่มวังหลัง และกลุ่มชาวจีน ได้จัดสร้างพระขึ้น โดยมีหลวงปู่เทพโลกอุดรและหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน และเกจิอาจรย์ทั่วประเทศเข้าร่วมพิธี อธิษฐานจิตปลุกเสกด้วย ช่วงระหว่างนั้นมีการสร้าง พระกันมากหลายกลุ่มทั้งจากกลุ่มวังหน้าและวังหลัง โดยท่านเจ้ากรมบวรวิไชยชาญเจ้ากรมวังหน้า ท่านได้ปรึกษากับสมเด็จโตเพื่อจัดสร้างพระขึ้นของกลุ่มวังหน้าและยังพบชิ้นส่วนมวลสารเก่าจากการสร้างพระของวังหน้าผสมอยู่ด้วยกับ พระสมเด็จหลังเปลือกไม้ จึงเป็นไปได้ว่า มีการจัดสร้างพร้อมๆกันใกล้เคียงกัน พระเกจิรูปหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ผู้ที่มีความสามารถตรวจจับพลังจิตได้ยังพบว่า พระชุดนี้นั้นเป็นพระที่มีพลังจิตของหลวงปู่เทพโลกอุดรด้วย ซึ่งพบในพระของกลุ่มช่างชาวจีนด้วยเช่นกัน การสร้างพระในช่วงนั้น ท่านสมเด็จโตได้ระดมช่างเพื่อวางแผนในการจัดสร้างขึ้น จะสังเกตุได้ว่าพระสมเด็จชุดหลังเปลือกไม้นั้น เป็นแม่พิมพ์ของช่างหลวงทั้ง 3 ท่าน 1.หลวงวิจิตร นฤมล 2.หลวงสิทธิ์ประสงค์ โยธารักษ์ 3.หลวงวิจารณ์ เจียรนัย ซึ่งทั้ง 3 ท่านนั้นสังกัดวังหลวงจึงได้ชื่อว่าช่างหลวง ซึ่งแตกต่างจากช่างสิบหมู่ ซึ่งสังกัดในแต่ละกรมเช่น สังกัดกรมวังหน้า และกรมวังหลัง พระสมเด็จวัดระฆังฯ ชุดหลังเปลือกไม้หรือหลังสวน จึงถูกสร้างขึ้นจากการร่วมมือกันของช่างหลวงทั้ง 3 ท่าน ทำการกดพิมพ์ที่หลังวัดระฆังฯ
ครูอาจารย์กล่าวบอกไว้ ว่าพระสมเด็จวัดระฆังฯ หลังเปลือกไม้และพระสมเด็จวัดระฆังฯ เนื้อผสมผงใบลานเผาชุดนี้ เป็นพระที่ถูกปิดบังมาตั้งแต่มีการเริ่มสร้าง และสงวนไว้ให้กับผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้น ที่จะได้ครอบครองได้ เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นพระที่มีพลังพุทธคุณสูงกว่าพระสมเด็จวัดระฆังฯทั่วไป รวมไปถึงพระเครื่องอื่นๆ ( เชื่อกันว่าพระสมเด็จวัดระฆังฯ หลังเปลือกไม้และพระสมเด็จวัดระฆังฯ เนื้อผสมผงใบลานเผา ในส่วนที่หายไปภายหลังจากปลุกเสกแล้วนั้น จะกลับมาสถิต อยู่ในการครอบครองของผู้ที่มีบุญบารมี และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในการจัดสร้าง และรวมถึงผู้ที่มีความผูกพันกับสมเด็จพระพุฒาจารย์โตในอดีตชาติเท่านั้น)
พระสมเด็จวัดระฆังฯ ชุดนี้ เป็นพระที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากพระสมเด็จวัดระฆังฯทั่วไป อันประกอบด้วยมวลสารพิเศษต่างๆ ที่นำมาใช้ในการสร้าง เช่น พระธาตุ พระอรหันต์ธาตุ ผงใบลานเผาและผงเหล็กไหล ประกอบกับลักษณะเด่นของพระสมเด็จชุดนี้ คือพื้นผิวด้านหลังองค์พระจะปรากฏรอยของเปลือกไม้ ที่มีความแห้งแกร่งคล้ายกับหิน เหมือนกับซากไม้กลายเป็นหินอยู่ด้านหลังขององค์พระ นับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในพระสมเด็จวัดระฆังฯ หลังเปลือกไม้ ที่สร้างโดยกลุ่มวังหน้าและวังหลัง นอกจากความงดงามแล้วยังแฝงไปด้วยคติธรรมในทางพุทธศาสนาอีกด้วย